การพัฒนาโมเดลการตลาดในการรีแบรนด์ วังสวนบ้านแก้ว จังหวัดจันทบุรี
ผู้เขียน :
บวรสรรค์ เจี่ยดำรง
,
เหมือนฝัน คงสมแสวง
,
โชติกา ลิลา
,
อรสิริ พานิช
,
วรวิทย์ พัฒนาอิทธิกุล
เผยแพร่วันที่ :
31 ธ.ค. 2566
ประเภท :
บทความวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติ
วารสารวิชาการ :
CRRU Journal of Communication
เล่มที่ :
6
ฉบับที่ :
2
หน้า :
119-152
ผู้เผยแพร่ :
คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
รายละเอียด :
งานวิจัยเรื่อง “การพัฒนาโมเดลการตลาดในการรีแบรนด์ วังสวนบ้านแก้ว” มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อวิเคราะห์ความคิดเห็นของนักทัศนาจรเจนเนอเรชั่นซีที่มีต่อปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ของวังสวนบ้านแก้ว จังหวัดจันทบุรี (2) เพื่อวิเคราะห์ความคาดหวังของนักทัศนาจรเจนเนอเรชั่นซีที่มีต่อปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ 7Ps ของวังสวนบ้านแก้ว จังหวัดจันทบุรี และ (3) เพื่อสังเคราะห์และสร้างโมเดลการตลาดในการรีแบรนด์วังสวนบ้านแก้ว ประเด็นความคิดเห็นและความคาดหวังของนักทัศนาจรเจนเนอเรชั่นซีที่มีต่อส่วนประสมการตลาดบริการของวังสวนบ้านแก้ว ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้วิธีการสังเกต (Observe) วิจัยเอกสาร (Documentary Research) การสัมภาษณ์ (Interview) และการสนทนากลุ่ม (Focus Group) ในการเก็บรวบรวมข้อมูลแหล่งข้อมูลดังกล่าวข้างต้น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทราบข้อสรุปที่เกี่ยวข้องกับความคิดเห็นและความคาดหวังของนักทัศนาจรเจนเนอเรชั่นซีที่มีต่อส่วนประสมทางการตลาดบริการ และการสร้างทฤษฎีจากสนามวิจัยเป็นแนวทางในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลประเภทบุคคล ได้แก่ นักทัศนจรเจนเนอเรชั่นซี ที่มีประสบการณ์กับวังสวนบ้านแก้วทั้งทางตรงและทางอ้อม จำนวน 50 คน และเจ้าหน้าที่วังสวนบ้านแก้วจำนวน 15 คน แหล่งข้อมูลประเภทสิ่งพิมพ์และเว็บไซต์ และแหล่งข้อมูลประเภทวัตถุในระหว่างเดือนทั้งทางตรงและทางอ้อม จำนวน 50 คน และเจ้าหน้าที่วังสวนบ้านแก้วจำนวน 15 คน แหล่งข้อมูลประเภทสิ่งพิมพ์และเว็บไซต์และ แหล่งข้อมูลประเภทวัตถุในระหว่างเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 - เดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 รวมระยะเวลา 9 เดือน ข้อสรุปเบื้องต้นที่เกี่ยวกับความคิดเห็นและความคาดหวังของนักทัศนาจรเจนเนอเรชั่นซีที่มีต่อส่วนประสมทางการตลาดบริการวังสวนบ้านแก้ว จะนำมาเป็นข้อมูลนำเข้าสำหรับการประชุมระดมสมอง (Brainstorming) จากผู้เชี่ยวชาญ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ รีแบรนด์ วังสวนบ้านแก้ว ได้แก่ นักการตลาดภายนอก เจ้าหน้าและผู้บริหารสำนักศิลปวัฒนธรรมและพัฒนาชุมชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มอื่น ๆ เป็นต้น ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อได้ข้อสรุปจากการระดมสมอง ข้อสรุปดังกล่าวจะนำมาสังเคราะห์ด้วยวิธีการสร้างทฤษฎีจากสนามวิจัย (Grounded Theory) เพื่อสร้างโมเดลการตลาดในการรีแบรนด์ วังสวนบ้านแก้ว
ผลการวิจัยพบว่า การวิเคราะห์ข้อมูลความคิดเห็นและความคาดหวังของนักทัศนาจรเจนเนอเรชั่นซีที่มีต่อส่วนประสมการตลาดบริการของวังสวนบ้านแก้วสามารถสรุปผลการวิจัยรายละเอียดดังนี้ ปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่ต้องพิจารณาในการ รีแบรนด์ วังสวนบ้านแก้ว ประกอบไปด้วย 7 ปัจจัย ได้แก่ (1) ปัจจัยด้านกระบวนทัศน์ (Paradigm) การปรับกระบวนทัศน์จากอนุรักษ์นิยมสุดโต่งไปสู่กระบวนทัศน์แบบอนุรักษ์นิยมร่วมสมัย (2) ปัจจัยด้านการบริหารจัดการ (Management) ปรับการบริหารแบบราชการไปสู่แบบวิสาหกิจสังคม (Social Enterprise) (3) ปัจจัยด้านการแบ่งส่วนตลาด (Segmentation) ขยายส่วนตลาดไปสู่นักทัศนาจรกลุ่มเจเนอเรชั่นซี โดยกำหนดเป้าหมายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี (4) ปัจจัยด้านสายผลิตภัณฑ์ (Product Line) เพิ่มผลิตภัณฑ์บริการอื่น ๆ และผลิตภัณฑ์จากสินทรัพย์ดิจิทัลจากต้นทุนที่วังสวนบ้านแก้วมี (5) ปัจจัยด้านการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการและแบรนด์(IMC and Brand) ใช้การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการทุกช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์เพื่อสร้างจุดสัมผัส (Touch Point) ตลอดเส้นทางของนักทัศนาจรเจนเนอเรชั่นซี (6) ปัจจัยด้านวิถีชีวิตแบบดิจิทัล (Digital Lifestyle) พัฒนา Suanbankaew Lifestyle on Mobile Application (7) ปัจจัยด้านวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ประเมินผลและวิเคราะห์แนวโน้มทางธุรกิจและพฤติกรรมนักทัศนจรในทุกเจนเนอเรชั่นการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวจะนำไปเป็นข้อมูลเพื่อสร้างโมเดลการตลาดในการ รีแบรนด์ดิ่งวังสวนบ้านแก้ว
ลิงค์ :