ทัศนคติของนักศึกษาพยาบาลต่อการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ต้องรับการช่วยเหลือจากบุคคลที่สาม
ผู้เขียน :
วรรณี เดียวอิศเรศ
,
คิชิดะ ยาซุโกะ
,
ภรภัทร์ เฮงอุดมทรัพย์
,
ดาริน บัวหาญ
เผยแพร่วันที่ :
1 เม.ย. 2566
ประเภท :
บทความวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติ
วารสารวิชาการ :
วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ
เล่มที่ :
41
ฉบับที่ :
2
หน้า :
e262893
ผู้เผยแพร่ :
สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
รายละเอียด :
การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค เพื่อศึกษาการรับรูของนักศึกษาพยาบาลเกี่ยวกับการศึกษาและทัศนคติตอ
การใชเทคโนโลยีชวยการเจริญพันธุ และเปรียบเทียบทัศนคติของนักศึกษาที่มีปจจัยสวนบุคคลตางกัน กลุมตัวอยางคือ นักศึกษา
พยาบาลชั้นปที่ 3 และ ชั้นปที่ 4 จากสถาบันการศึกษาพยาบาลสังกัดรัฐบาลและเอกชน 4 แหง รวมจํานวน 816 คน ซึ่งไดจาก
การสุมตัวอยางอยางงาย เก็บรวมรวมขอมูลโดยใหกลุมตัวอยางตอบแบบสอบถามดวยตัวเอง ประกอบดวย แบบสอบถามเกี่ยวกับ
ขอมูล สวนบุคคล การศึกษาเกี่ยวกับการใชเทคโนโลยีชวยการเจริญพันธุ ความคิดเห็นตอเนื้อหาหลักสูตร และทัศนคติตอการใช
เทคโนโลยีชวยการเจริญพันธุ แบบสอบถามมีคาสัมประสิทธิ์แอลฟาระหวาง .74 - .87 วิเคราะหขอมูลโดยใชสถิติพรรณนา
การทดสอบคาทีและการวิเคราะหความแปรปรวนทางเดียว
ผลการวิจัย พบวา นักศึกษาสวนใหญ (รอยละ 63.1) รับรูวาเคยศึกษาเกี่ยวกับการใชเทคโนโลยีชวยการเจริญพันธุ
มากกวา 2 ใน 3 ของนักศึกษา เห็นวาเนื้อหาการรักษาภาวะการมีบุตรยากและการพยาบาลเกี่ยวกับการใชเทคโนโลยีชวยการเจริญพันธุ
และจริยธรรมมีความจําเปนมากขึ้น นักศึกษามีทัศนคติทางบวกเกี่ยวกับสิทธิการมีบุตรวาเปนสิทธิ์ของผูหญิงและของผูชาย
แตมีทัศนคติทางลบกับการรักษาผูหญิง/ผูชายที่มีภาวะมีบุตรยากที่ตองรับการชวยเหลือจากบุคคลที่สาม เชน ผูบริจาคอสุจิหรือไข
นักศึกษาชั้นปที่ 4 มีคะแนนทัศนคติโดยรวมมากกวานักศึกษาชั้นปที่ 3 อยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และไมพบ
ความแตกตางของทัศนคติระหวางนักศึกษาที่มีประวัติการมีบุตรยากในครอบครัวและประวัติการใชเทคโนโลยีชวยการเจริญพันธุ
ในครอบครัวรวมทั้งการจะใชเทคโนโลยีชวยการเจริญพันธุในอนาคต (p > .05)
ลิงค์ :